23-8-8 ยารา ขนาด 50 กิโลกรัม

23-8-8 ยารา ขนาด 50 กิโลกรัม

รายละเอียดสินค้า

ยารามีร่า 23-8-8 เป็นปุ๋ยที่มีส่วนผสมของไนโตรเจน (N), ฟอสฟอรัส (P), และโพแทสเซียม (K) ออกแบบมาเพื่อเพิ่มปริมาณและคุณภาพของพืชให้ได้มากที่สุด สูตรเฉพาะเหมาะสำหรับพืชที่ต้องการไนโตรเจนสูง ยารามีร่า 23-8-8 เป็นหนึ่งในปุ๋ยที่มีแหล่ง ไนโตรเจน (N), ฟอสฟอรัส (P), และโพแทสเซียม (K) ที่มีคุณภาพสูงมาก

ในทุกเม็ดของปุ๋ยของยารามีร่า 23-8-8 จะมีปริมาณ NPK เท่าๆ กันอย่างแม่นยำ ดังนั้นเมื่อใส่ปุ๋ยในอัตราส่วนที่ถูกต้องและในสภาวะที่ถูกต้อง ยารามีร่าจึงทำให้คุณมั่นใจได้ว่าพืชจะได้รับธาตุอาหารจำเป็นอย่างถูกต้องและสมดุล

ผลิตภัณฑ์เป็นปุ๋ยคอมปาวด์ ดังนั้นการกระจายตัวของธาตุอาหารจึงสม่ำเสมอทุกครั้งเมื่อหว่านด้วยมือหรือเครื่องหว่านปุ๋ยในไร่ ไม่มีความเสี่ยงว่าธาตุอาหารจะกระจายตัวแบ่งแยกระหว่างการขนส่ง การบรรจุ หรือการหว่าน

คุณสมบัติ เป็นปุ๋ยเคมีชนิดเม็ด ประกอบด้วย

ปริมาณธาตุอาหารรับรอง

• ไนโตรเจนทั้งหมด (N) 23 %
• ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ (P2O5) 8 %
• โพแทสเซียมที่ละลายนํ้า (K2O) 8 %

พืชที่แนะนําให้ใช้ : พืชไร่ ไม้ผล พืชผัก

อัตราที่ใช้ วิธีใช้ และระยะเวลาที่ใช้

พืชไร่ เช่น อ้อย มันสําปะหลัง ฝ้าย ข้าวโพด ข้าวฟ่าง

• อ้อย ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 40-60 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี ดังนี้
• อ้อยปลูก แบ่งใส่สองครั้งเท่าๆ กัน ครั้งแรกหลังปลูกประมาณ 1 เดือน ครั้งที่สองหลังจากใส่ครั้งแรกประมาณ 30-60 วัน
• อ้อยตอ นอกเขตชลประทาน ครั้งแรกต้นฤดูฝน ครั้งที่สองใส่ปุ๋ ยที่เหลือหลังจากใส่ครั้งแรกประมาณ 30-60 วัน โดยวิธีโรยข้างแถว
• อ้อยตอ ในเขตชลประทาน ครั้งแรกใส่ทั้งหมดหลังตัดแต่งตอ ครั้งที่สองใส่ปุ๋ยเคมีแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) อัตรา 20-40 กิโลกรัมต่อไร่ หลังจากใส่ครั้งแรก 30-60 วัน โดยวิธีโรยข้างแถว ควรใส่ปุ๋ ยเคมีขณะที่ดินมีความชื้นพอเหมาะ และต้องพรวนดินกลบปุ๋ยเคมี

มันสําปะหลัง ใส่ปุ๋ยครั้งเดียวเป็นหลุมสองข้างต้นแล้วกลบปุ๋ย ในอัตรา 60-80 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่ออายุ 1-2 เดือน หรือหลังการกําจัดวัชพืชครั้งแรก

ฝ้าย ใช้ปุ๋ยนี้ในดินทราย หรือดินร่วนปนทราย ในอัตรา 25-30 กิโลกรัมต่อไร่ โรยก้นร่องก่อนปลูกฝ้าย ครั้งที่สองใส่ 25-50 กิโลกรัมต่อไร่ โรยสองข้างแถวฝ้ายแล้วพูนดินกลบโคน เมื่อฝ้ายอายุ 25-30 วัน ก่อนใส่ปุ๋ ยจะต้องปราบวัชพืชให้เรียบร้อย

ข้าวโพดและข้าวฟ่าง ใช้ปุ๋ยนี้ในที่เป็นดินร่วนปนทราย หรือดินทราย ในอัตรา 50-100 กิโลกรัมต่อไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้งๆ ละ เท่าๆ กัน ครั้งแรกใส่ตอนเตรียมดิน ก่อนปลูกพืชเล็กน้อย ครั้งที่สองใส่โรยข้างแถวพูนโคนต้น เมื่ออายุประมาณ 25-30 วัน ก่อนใส่ต้องปราบวัชพืชให้เรียบร้อยเสียก่อน และหลังใส่ปุ๋ยต้องพูนดินกลบปุ๋ยด้วย

ไม้ผล เช่น มะม่วง กล้วย มะละกอ มะนาว องุ่น ลําไย น้อยหน่า ทุเรียน เงาะ มังคุด ลางสาด ลิ้นจี่ ฝรั่ง และส้ม ในระยะที่มีอายุ 1-3 ปี ใส่ปุ๋ยเคมีบริเวณทรงพุ่มแล้วพรวนดินกลบ ในอัตรา 1-3 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี ขึ้นอยู่กับขนาดของต้น ในปีหนึ่งๆ ควรใส่ปุ๋ ยเคมีประมาณ 3 ครั้ง

พืชผัก เช่น กะหลํ่าดอก กะหลํ่าปลี ผักกาดขาว ผักชี คึ่นฉ่าย ผักกวางตุ้ง หอม กระเทียม พริก มะเขือ และนํ้าเต้า ใส่เมื่อพืชตั้งตัวดีแล้วแบ่งใส่สองครั้ง ครั้งแรกใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ โดยวิธีหว่านหรือรองก้นหลุม ครั้งที่สองใช้ปุ๋ยเคมีอัตราเดียวกับครั้งแรก หลังจากใส่ปุ๋ยเคมีครั้งแรก 15-30 วัน โดยวิธีโรยข้างแถว

คําแนะนํา

ควรอ่านคําแนะนําเอกสารกํากับปุ๋ยเคมีให้เข้าใจเสียก่อน หากไม่เข้าใจหรือมีปัญหาสงสัยให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร และกรมส่งเสริมการเกษตรในท้องถิ่น เพื่อให้การใช้ปุ๋ยเคมีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และไม่ควรใช้เกินอัตราที่กําหนด เพราะจะเป็นอันตรายกับพืชได้

ข้อควรระวัง

1. ก่อนใส่ปุ๋ยเคมี ควรกําจัดวัชพืชให้หมดเสียก่อน เพื่อป้องกันมิให้วัชพืชมาใช้ปุ๋ยเคมีที่ใส่ลงไป
2. ควรใส่ปุ๋ยเคมีเมื่อดินมีความชื้นอยู่ เมื่อใส่ปุ๋ยเคมีควรกลบดิน ในกรณีที่มีการให้นํ้า ควรให้นํ้าน้อยๆ ก่อน แล้วจึงเพิ่มให้มากขึ้น ถ้าให้ได้ผลดียิ่งขึ้น ควรใส่ปุ๋ยเคมีแก่พืชในช่วงมีแสงแดดจัด ฝนไม่ตก
3. ควรหมั่นดูแลป้องกันกําจัดโรคแมลงศัตรูพืชอยู่เสมอ
4. ควรเก็บปุ๋ยเคมีในภาชนะที่ปิดมิดชิด อย่าให้ถูกความร้อน แสงแดด และฝน

ขนาดบรรจุ : 50 กิโลกรัม

ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย : บริษัท ยารา (ประเทศไทย) จำกัด